ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่พ้นสายตาชาวแอนตี้ไปได้ สำหรับลูกทุ่งสาวแห่งค่าย “อาร์สยาม” ใบเตย-สุธีวัน ทวีสิน ที่ล่าสุดมีคนขุดรูปสาวใบเตยถูกหนุ่มนิรนามอุ้มแบบแนบชิด และถูกตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่มีอาการเมาด้วย งานนี้เมื่อได้เจอสาวใบเตยในงานแถลงข่าวสบายดีทีวี ลูกทุ่งเฟสติวัล ปี 4 ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เลยต้องคว้าตัวมาถามถึงประเด็นดังกล่าว
ใบเตย เผยว่า “เรื่องภาพวันนั้น คือวันที่ใบเตยไปดูคอนเสิร์ต เซ็กซี่ ออน เดอะ บีช ที่พัทยาค่ะ คนที่กอดใบเตยเขาไม่ใช่ผู้ชายค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกัน คือเขาเคยทำเสื้อผ้าให้ใบเตยตอนทำงานกับแมกกาซีนเล่มหนึ่ง พอนาน ๆ เจอกัน เขาขอกอด และถ้าเราไม่ให้มันก็คงมีปัญหา เขาอาจจะหาว่าใบเตยหยิ่ง แต่ด้วยเราเคยเจอ เคยสนิทและพบปะกันมาก่อน เพราะฉะนั้นการกอดกันหรือการอุ้มไม่ใช่เรื่องแปลก และต้องบอกเลยว่าวันนั้นไม่ได้มีใครเมาเลย หลังจากที่เป็นข่าวใบเตยก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเลย เพราะว่าเรารู้กันค่ะ ส่วนพี่แมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา เขาก็ตกใจที่เห็นภาพ เพราะว่าเราไม่ได้เล่าว่า วันหนึ่งเราถ่ายรูปกับใครบ้าง แต่พอบอกว่าพี่คนนี้เป็นใครเขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร”
“ส่วนเรื่องเสื้อที่ใบเตยใส่แล้วคนบอกว่าเหมือนเอาผ้าห่มมาใส่จริง ๆ เป็นเสื้อแบรนด์นึงค่ะ ที่คนมาว่ามันก็อาจจะเป็นธรรมชาติของคนแอนตี้ จริง ๆ ชุดนั้นเขาทำมาแบบนี้อยู่แล้ว ใบเตยไม่นอยด์เลยค่ะที่โดนจับผิด ไม่โกรธ คิดอยู่แล้วว่าต้องโดนแบบนี้ และก็ไม่ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ ไม่ได้สนใจเพจแอนตี้เลย เลิกสนใจแล้วค่ะ ส่วนที่มีคนให้ฉายาว่า “อาชญากรแฟชั่น” อันนี้ใบเตยรู้สึกตลก เพราะคำว่าอาชญากรมันเหมือนการขโมย แต่เราไม่ใช่ค่ะ เราซื้อและเราได้จากน้ำใจของแบรนด์ต่าง ๆ แล้วก็เรื่องที่เอาหมาวางบนตักแล้วคนบอกจะโชว์กระเป๋าหรืออะไรที่มากกว่าหมาหรือเปล่า จริง ๆ เคยโชว์อะไรมามากกว่าหมาก็เยอะนะคะ คือเตยไม่เคยได้เข้าไปดูคอมเมนต์พวกนั้นเลย คิดดีก็ดี คิดไม่ดี ก็ไม่เป็นไร นานาจิตตังค่ะ เตยไม่ได้มองคนที่แอนตี้ เตยจะมองคนที่สนใจเรามากกว่า ส่วนเรื่องชุดว่ายน้ำที่ลงบ่อย ๆ ก็ไม่ได้อวด เพราะหลาย ๆ คนเขาก็ถ่ายกัน เพียงแต่เราเป็นคนของประชาชนระดับหนึ่ง ตอนนี้ก็ทำใจค่ะว่าทำอะไรก็โดนด่า ใบเตยว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ”.
Cr. http://www.dailynews.co.th
20/11/2014
ใบเตย เผยว่า “เรื่องภาพวันนั้น คือวันที่ใบเตยไปดูคอนเสิร์ต เซ็กซี่ ออน เดอะ บีช ที่พัทยาค่ะ คนที่กอดใบเตยเขาไม่ใช่ผู้ชายค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกัน คือเขาเคยทำเสื้อผ้าให้ใบเตยตอนทำงานกับแมกกาซีนเล่มหนึ่ง พอนาน ๆ เจอกัน เขาขอกอด และถ้าเราไม่ให้มันก็คงมีปัญหา เขาอาจจะหาว่าใบเตยหยิ่ง แต่ด้วยเราเคยเจอ เคยสนิทและพบปะกันมาก่อน เพราะฉะนั้นการกอดกันหรือการอุ้มไม่ใช่เรื่องแปลก และต้องบอกเลยว่าวันนั้นไม่ได้มีใครเมาเลย หลังจากที่เป็นข่าวใบเตยก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเลย เพราะว่าเรารู้กันค่ะ ส่วนพี่แมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา เขาก็ตกใจที่เห็นภาพ เพราะว่าเราไม่ได้เล่าว่า วันหนึ่งเราถ่ายรูปกับใครบ้าง แต่พอบอกว่าพี่คนนี้เป็นใครเขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร”
“ส่วนเรื่องเสื้อที่ใบเตยใส่แล้วคนบอกว่าเหมือนเอาผ้าห่มมาใส่จริง ๆ เป็นเสื้อแบรนด์นึงค่ะ ที่คนมาว่ามันก็อาจจะเป็นธรรมชาติของคนแอนตี้ จริง ๆ ชุดนั้นเขาทำมาแบบนี้อยู่แล้ว ใบเตยไม่นอยด์เลยค่ะที่โดนจับผิด ไม่โกรธ คิดอยู่แล้วว่าต้องโดนแบบนี้ และก็ไม่ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ ไม่ได้สนใจเพจแอนตี้เลย เลิกสนใจแล้วค่ะ ส่วนที่มีคนให้ฉายาว่า “อาชญากรแฟชั่น” อันนี้ใบเตยรู้สึกตลก เพราะคำว่าอาชญากรมันเหมือนการขโมย แต่เราไม่ใช่ค่ะ เราซื้อและเราได้จากน้ำใจของแบรนด์ต่าง ๆ แล้วก็เรื่องที่เอาหมาวางบนตักแล้วคนบอกจะโชว์กระเป๋าหรืออะไรที่มากกว่าหมาหรือเปล่า จริง ๆ เคยโชว์อะไรมามากกว่าหมาก็เยอะนะคะ คือเตยไม่เคยได้เข้าไปดูคอมเมนต์พวกนั้นเลย คิดดีก็ดี คิดไม่ดี ก็ไม่เป็นไร นานาจิตตังค่ะ เตยไม่ได้มองคนที่แอนตี้ เตยจะมองคนที่สนใจเรามากกว่า ส่วนเรื่องชุดว่ายน้ำที่ลงบ่อย ๆ ก็ไม่ได้อวด เพราะหลาย ๆ คนเขาก็ถ่ายกัน เพียงแต่เราเป็นคนของประชาชนระดับหนึ่ง ตอนนี้ก็ทำใจค่ะว่าทำอะไรก็โดนด่า ใบเตยว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ”.
Cr. http://www.dailynews.co.th
20/11/2014
